วันจันทร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2558

10 อันดับรถที่แพงสุดในโลก

10 อันดับรถแพงที่สุดในโลก 


        10 อันดับรถที่แพงที่สุดในโลก 2014   ราคารถที่แพงที่สุดในโลก 10 อันดับ มียี่ห้ออะไรบ้าง วันนี้เรามีข้อมูลพร้อมรูปรถที่แพงที่สุดในโลก 2014 มาฝาก

         วงการยานยนต์เป็นวงการหนึ่งที่มีเรื่องราวอันเป็นที่สุดมากมาย และเรื่องราวที่สุดอย่างหนึ่งที่หลายคนให้ความสนใจก็คือ ราคา เพราะราคาของรถที่ยิ่งสูงนั้นก็ยิ่งมาพร้อมสมรรถนะ ความหรูหรา แนวทางการออกแบบ และเทคโนโลยีใหม่ ๆ มากมาย ซึ่งในปี 2014 นี้ก็เป็นอีกปีหนึ่งที่มีราคาแพงเปิดตัวจำหน่ายหลายรุ่น แต่รุ่นไหนจะถือเป็นที่สุดนั้น ก็ติดตามได้จาก 10 อันดับราคาแพงที่สุดแห่งปี 2014 ที่กระปุกดอทคอมให้ทุกท่านได้ชมกันแล้วครับ

1. Lamborghini Veneno 





          รถสปอร์ตรุ่นพิเศษจากแลมโบกินี่ (Lamborghini) ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 9 คันเท่านั้น มาพร้อมเครื่องยนต์ V12 ขนาด 6,500 ซีซี กำลัง 750 แรงม้า ตัวถังทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ มีความเร็วสูงสุด 355 กม./ชม. พร้อมด้วยราคาจำหน่ายสูงถึงคันละ 4.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 146 ล้านบาท) แพงที่สุดในบรรดารถยนต์ที่ยังมีขายในปี 2014 เลยทีเดียว


2. Koenigsegg One:1  




         ซูเปอร์คาร์ผู้เป็นเจ้าของความเร็ว 432 กม./ชม. ใช้เครื่องยนต์ W16 Quad Turbo ขนาด 8,000 ซีซี กำลัง 1,200 แรงม้า ตั้งเป้าจำหน่ายให้ได้ 500 คัน และยังเหลือีก 50 คันให้เป็นเจ้าของ ส่วนราคาเริ่มต้นที่ 2.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 81 ล้านบาท)


4. Ferrari LaFerrari  




นับเป็นซูเปอร์คาร์รุ่นที่แรงที่สุดของเฟอร์รารี่ในปัจจุบัน โดยเป็นรถสปอร์ตรุ่นแรก ๆ ของโลกที่นำเทคโนโลยีการขับเคลื่อนแบบไฮบริดมาใช้ ผสานกำลังกันระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ V12 ขนาด 6,300 ซีซี กำลัง 963 แรงม้า ทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาต่ำกว่า 3 วินาที ทำความเร็วได้มากกว่า 350 กม./ชม. ถือเป็นรถยนต์ไฮบริดที่แรงที่สุดบนโลกในขณะนี้ ทั้งนี้ มันถูกผลิตเพียง 499 คัน เท่านั้น ส่วนราคาของมันเริ่มต้นที่ 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 52.6 ล้านบาท)


5. Pagani Huayra



พากานิ ไวร่า (Pagani Huayra) ซูเปอร์คาร์จากอิตาลีที่มาแรงไม่แพ้แลมโบกินีและเฟอร์รารี (Ferrari) ใช้เครื่องยนต์ V12 Bi Turbo ขนาด 6,000 ซีซี จากเอเอ็มจี (AMG) พร้อมด้วยระบบปีกรับลมอัตโนมัติ เพิ่มแรงกดเพื่อการยึดเกาะที่ดีเยี่ยม ด้านสนนราคานั้นเริ่มต้นที่ 1.4 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 45 ล้านบาท)


6. Hennessey Venom GT



ใครว่าซูเปอร์คาร์มีเฉพาะในยุโรป สหรัฐฯ เองก็สร้างซูเปอร์คาร์ตัวแรงได้ดีไม่แพ้กัน ด้วย เฮนเนสซี เวนอม จีที (Hennessey Venom GT) เจ้าของความเร็ว 435 กม./ชม. ซึ่งสูงที่สุดในปัจจุบัน (แต่ยังไม่ได้การรับรองจากกินเนสส์บุ๊ก) สร้างจากโครงสร้างของโลตัส เอ็กซีก (Lotus Exige) ใช้เครื่องยนต์ขนาด 7,000 ซีซี เทอร์โบชาร์จคู่ มีกำลัง 1,244 แรงม้า ซึ่งรุ่นสูงสุดของมันมีราคาอยู่ที่ 1.2 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 38 ล้านบาท)





สุดยอดรถสปอร์ตจากแม็คลาเรน (McLaren) ผู้ผลิตสัญชาติอังกฤษ ทีเด็ดอยู่ที่เป็นรถสปอร์ตไฮบริดที่ออกแบบทุกอย่างเพื่อใช้น้ำมันให้คุ้มค่าทุกหยด โดยใช้เครื่องยนต์ V8 ขนาด 3,800 ซีซี ผสานกำลังกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้พละกำลังรวมกันถึง 903 แรงม้า ส่วนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1.3 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 42 ล้านบาท) แพงสมกับเป็นรถสปอร์ตเทคโนโลยีใหม่จริง ๆ


8. Porsche 918 Spyder



รถสปอร์ตไฮบริดจากปอร์เช่ที่ไมได้มีดีแค่การประหยัดน้ำมัน แต่ยังมาพร้อมความแรงและฟิลลิ่งการขับขี่ที่สปอร์ตเหลือกิน เหลือใช้กับเครื่องยนต์ V8 ขนาด 4,600 ซีซี จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กำลังรวมกัน 887 แรงม้า ส่วนราคานั้นแรงสะใจที่ 929,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 30 ล้านบาท)


9. Rolls Royce Phantom



รุ่นชูโรงสุดหรูของโรลส์ รอยซ์ ด้วยงานประกอบระดับเทพ วัสดุภายในคุณภาพสูง และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกจัดเต็ม ทั้งยังมีให้เลือกทั้งรุ่นคูเป้ เปิดประทุน และสี่ประตูแบบซาลูน ตามความต้องการ ใช้เครื่องยนต์ V12 ขนาด 6,750 ซีซี กำลัง 453 แรงม้า แรงกำลังดี ส่วนราคาเริ่มต้น 474,990 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 15.4 ล้านบาท)


10. Lamborghini Aventador




ซูเปอร์คาร์กระทิงดุรุ่นยอดนิยมของค่าย ออกแบบโฉบเฉี่ยวสมกับรถสปอร์ตในปัจจุบัน ภายในหรูหราด้วยวัสดุชั้นยอด มาพร้อมเครื่องยนต์ V12 ขนาด 6,500 ซีซี กำลัง 700 แรงม้า ทำเวลาจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 2.9 วินาที นับว่าเร็วมากทีเดียว ด้านราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 441,600 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 14 ล้านบาท) สมกับเป็นสมรรถนะระดับซูเปอร์คาร์ของมัน

ทั้ง 10 รุ่นก็ถือเป็นรถยนต์ทีเด็ดของปี 2014 จริง ๆ มีทั้งซูเปอร์คาร์ความเร็วระดับสถิติรถยนต์หรูกำลังแรง แม้แต่รถสปอร์ตไฮบริดก็ยังมีให้เลือกใช้เลือกชมกันด้วย ก็ติดตามว่าในปีต่อ ๆ ไป ค่ายรถยนต์ทั้งหลายเหล่านี้จะนำเสนออะไรให้เราได้ชมกันอีกครับ





10 ผู้ชายรวยที่สุดในโลก

10 ผู้ชายที่รวยที่สุดในประเทศไทย

10 รวมถึงตระกูลที่มีรายชื่อต่อไปนี้ คือผู้ที่รวยที่สุดในประเทศไทย ซึ่งรายชื่อทั้ง 10 นี้ ถูกจัดอันดับโดยนิตยสารForbes แต่ละคน เรียกได้ว่า รวยระดับพันล้านทั้งนั้น


อันดับ 1 คงหนีใครไปไม่พ้นนอกจาก นายธนิน เจียรวนนท์ แห่งเครือเจริญโภคภัณฑ์ ผู้ครองตลาดทั้งอาหารคน อาหารสัตว์ ผลิตภัณฑ์การเกษตร รวมถึงธุรกิจโทรคมนาคม รวมมูลค่า 12,600 ล้านดอลล่าสหรัฐ


อันดับที่ 2 ตระกูล จิราธิวัฒน์ เจ้าของบริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด ซึ่งเป็นของกลุ่มธุรกิจค้าปลีก ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า โรงแรม และรีสอร์ท รวมมูลค่า 12,300 ล้านดอลล่าสหรัฐ


อันดับที่ 3 นายเจริญ สิริวัฒนภักดี แห่งบริษัทไทยเบฟเวอเรจ ซึ่งมีธุรกิจอยู่หลายแขนง เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และยังมีธุรกิจโรงแรมอีกด้วย รวมมูลค่า 10,600 ล้านดอลล่าสหรัฐ


อันดับที่ 4 ตระกูล อยู่วิทยา เจ้าของเครื่องดื่มชูกำลัง กระทิงแดง และ Red Bull ที่ส่งขายไปทั่วโลก ซึ่งก่อตั้งโดย นายเฉลียว อยู่วิทยา ซึ่งปัจจุบัน ไม่ได้มีแค่ธุรกิจ เครื่องดื่มชูกำลังเท่านั้น แต่ยังมีธุรกิจอุตสาหกรรมยา และโรงพยาบาลอีกด้วย รวมมูลค่า 10,600 ล้านดอลล่าสหรัฐ


อันดับที่ 5 นายกฤตย์ รัตนรักษ์ ประธาน และ ซีอีโอ ของ บริษัท บางกอก บรอดคาสติ้ง แอนด์ ทีวี (ช่อง7) มีทรัพย์สินรวมถึงหุ้นในธนาคารกรุงศรีอยุธยา และปูนซิเมนต์นครหลวง รวมมูลค่าทรัพย์สิน 3,900 ล้านดอลล่าสหรัฐ


อันดับที่ 6 นายจํานงค์ ภิรมย์ภักดีและครอบครัว เจ้าของกลุ่มธุรกิจ บุญรอดบริวเวอรี่ รวมมูลค่าทรัพย์สิน 2,400 ล้านดอลล่าสหรัฐ


อันดับที่ 7 นายวานิช ไชยวรรณ ประธานกรรมการ บมจ.ไทยประกันชีวิต รวมมูลค่าทรัพย์สิน 2,100 ล้านดอลล่าสหรัฐ


อันดับที่ 8 นายวิชัย มาลีนนท์ เจ้าของกิจการ บีอีซีเวิลด์ และไทยทีวีสี ช่อง 3 รวมมูลค่าทรัพย์สิน 2,000 ล้านดอลล่าสหรัฐ


อันดับที่ 9 น.พ.ประเสริฐ ปราสาททองโอสถ ผู้ก่อตั้งสายการบิน บางกอก แอร์เวย์ส และเจ้าของเครือโรงพยาบาลกรุงเทพ รวมมูลค่าทรัพย์สิน 1,800 ล้านดอลล่าสหรัฐ


อันดับที่ 10 ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย มีทรัพย์สิน 1,700 ล้านดอลล่าสหรัฐ


The Wolf and the Crane (หมาป่ากับนกกระสา)


A wolf had been gorging on an animal he had killed.
When suddenly a small bone in the meat
stuck in his throat
and he could not swallow it.
He soon felt terrible pain in his throat,
and ran up and down groaning and groaning
and seeking for something to relieve the pain.
He tried to induce everyone he met to remove the bone.
I would give anything” said he,
if you would take if out.”
At last the Crane agreed t try,
and told the wolf to lie on his side and open his jaws
as wide as he could.
Then the crane put its long neck down the wolf’s throat,
and with its beak loosened the bone,
till at last it got it out.
Will you kindly give me the reward you promised?”
said the crane
The wolf grinned and showed this teeth and said:
Be content.
You have put your head inside a Wolf’s mouth
and taken it out again in safety;
that ought to be reward enough for you.”

หมาป่าตัวหนึ่งกำลังกินเนื้อสัตว์ที่มันฆ่ามาได้
ในขณะนั้นเอง ก็มีกระดูกชิ้นเล็กๆ อันหนึ่งซึ่งอยู่ในเนื้อ
ได้ตำติดคอมัน
มันไม่สามารถกลืนลงไปได้แถมคายก็ยังไม่ออก
นับแต่นั้นมันก็รู้สึกเจ็บในคอมาก
มันวิ่งไปวิ่งมาและร้องครวญครางไม่หยุด
มันได้แต่มองหาอะไรบางอย่างที่จะช่วยระงับความเจ็บปวดของมัน
มันพยายามขอร้องสัตว์ทุกตัวที่มันพบ ให้ช่วยเอากระดูกออกให้ตน
“แกจะเอาอะไรฉันก็ให้”   มันบอก
“ถ้าแกเอามันออกมาได้”
ในที่สุดนกกระสาก็ตกลงว่าจะลองดู
จึงบอกให้หมาป่านอนตะแคงแล้วอ้าปากให้กว้างที่สุด
แล้วนกกระสาก็อาศัยคอยาวๆของมันล้วงลงไปในลำคอของหมาป่าตัวนั้น
และใช้จงอยปากของมันคีบเอากระดูกออกมาได้
“คุณจะกรุณาให้รางวัลตามที่สัญญาไว้ หรือยัง
นกกระสาเอ่ยปากถาม
หมาป่าแสยะยิ้มให้เห็นเขี้ยวขาววาววับ แล้วกล่าวว่า
“จงพอใจบ้างซิวะ
แกได้เอาหัวขอแกใส่เข้าไปในปากของข้า
แล้วก็เอาออกมาได้โดยปลอดภัย
นั่นมันก็น่าที่จะเป็นรางวัลที่ดีที่สุดของแกแล้วนี่

 นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

ไม่มีประโยชน์อันใดที่จะไปช่วยเหลือคนโกง